การถูกแอบอ้างชื่อแบรนด์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เพราะในแต่ละวันมีเว็บไซต์ถูกจดทะเบียนใหม่มากมาย แต่ถ้าคุณกำลังละเลยเรื่องเหล่านี้ด้วยเหตุผลว่า การป้องกันเป็นเรื่องที่เกินขอบเขตความรับผิดชอบของคุณและคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าจะปล่อยผ่านไปได้เพราะดูเหมือนไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขอย่างจับต้องได้ นั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่
Akamai Brand Protector เป็นบริการที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้คุณสามารถต่อกรกับอำนาจที่อยู่นอกเหนือขอบเขตนี้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อภาพจำหรือความรู้สึกด้านลบกับกลุ่มลูกค้า ในบทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับบริการนี้ให้มากขึ้น ว่าเหตุใดการมีบริการจาก Akamai จึงทำให้ท่านจัดการความท้าทายเหล่านี้ได้
ภาพลักษณ์ของแบรนด์สำคัญอย่างไร?
หากวัดกันด้วยตัวเลขทางบัญชีแล้ว ชื่อแบรนด์อาจจะไม่ถูกนับเป็นมูลค่าก็จริง แต่เชื่อหรือไม่ว่าในโลกเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น แบรนด์ที่สั่งสมความน่าเชื่อถือว่านับสิบปี อาจจะติดลบได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่วันเทียบกับระยะเวลาและความทุ่มเทที่ธุรกิจฝ่าฟันมา ยกตัวอย่างเช่น การที่มีข่าวลือแพร่สะพัดในทางเสียหายบนโลกอินเทอร์เน็ตอาจก่อให้เกิดกระแสต่อต้าน หรือเพียงแค่มีผู้คนจำนวนหนึ่งรุมต่อว่าแบรนด์ในช่องคอมเม้นต์ก็อาจทำให้เกิดกระแสความเชื่ออย่างผิดๆได้
การปกป้องภาพลักษณ์นั้นดูเหมือนเป็นเรื่องที่นอกเหนือขอบเขตขององค์กรไปมาก ยกตัวอย่างเช่นมีเว็บแห่งหนึ่งลอกเลียนหรือโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นเว็บหลักขององค์กรเพื่อสร้างผลประโยชน์บางอย่าง ซึ่งหากเป็นเว็บไซต์ในประเทศที่ถูกควบคุมด้วยกฏหมายเดียวกันคงจะฟ้องร้องเอาผิดกันได้ แต่ในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเซิร์ฟเวอร์อาจถูกจัดตั้งที่ประเทศใดๆ ทำให้ยากต่อการจัดการ
อย่างไรก็ดีแม้เรื่องเหมือนจะไกลตัว แต่ถ้ามีลูกค้าถูกหลอกลวงจริง ผู้คนมักมองว่าความรับผิดชอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของแบรนด์ด้วย และหากผลกระทบเกิดขึ้นในวงกว้าง มูลค่าความเสียหายก็อาจจะเริ่มต้นขึ้นอย่างประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้ง่ายมากกับเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน
การแอบอ้าง หลอกลวง ด้วยชื่อแบรนด์เกิดขึ้นได้อย่างไร
การแอบอ้างชื่อแบรนด์สามารถทำได้ไม่ยากนักสำหรับมิจฉาชีพ ยิ่งแบรนด์มีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ผู้คนก็มักให้ความไว้วางใจและหลงเชื่อได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหากคนร้ายสามารถสร้างโปรไฟล์อย่างน่าสนใจ เช่น มีช่องทางติดต่อหลายทางดูมีความเป็นธุรกิจสูงด้วยโปรไฟล์โซเชียล อีเมลองค์กร การใช้โฆษณาเพื่อเข้าถึงผู้คน และอื่นๆ
ไม่ว่าอย่างไรท้ายที่สุดแล้วการแอบอ้างหลอกลวงนั้นมักนำไปสู่ผลประโยชน์ทางการเงิน เช่น สามารถขายสินค้าปลอมในนามแบรนด์นั้น หรืออาจจะทำสัญญาซื้อขายให้โอนเงินแต่ไม่มีของ รวมถึงหลอกเก็บเกี่ยวข้อมูลของเหยื่อเพื่อเข้าขโมยบัญชีบริการนั่นเอง
การปลอมแปลงเว็บไซต์ของธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 42% ต่อปี ซึ่งองค์กรต่างกังวลถึงเรื่องนี้ เพียงแต่การป้องกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เพราะเราจะทราบได้อย่างไรว่าแบรนด์ปลอมของท่านได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว ในโลกอินเทอร์เน็ตที่มีโดเมนถือกำเนิดใหม่นับไม่ถ้วนรายวัน ด้วยเทคนิคการปลอมแปลงหลากหลาย อีกทั้งเซิร์ฟเวอร์ยังกระจายตัวกันในประเทศต่างๆที่อยู่คนละซีกโลก
อนึ่งต่อให้องค์กรรู้ได้ ท่านจะทำอย่างไรเพื่อจัดการมิจฉาชีพเหล่านั้นที่กฏหมายของประเทศตนไม่ครอบคลุม แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้น องค์กรส่วนใหญ่แทบไม่รู้ตัวเลยว่าลูกค้าของแบรนด์กำลังถูกโจมตี หากไม่มีใครมาแจ้งข่าวให้ทราบ จากที่กล่าวมาข้างต้น Akamai Brand Protector จึงก้าวเข้ามาเพื่อช่วยให้แบรนด์ของธุรกิจได้รับการปกป้อง และแก้ไขปัญหาได้จริง
โซลูชัน Akamai Brand Protector
การเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีทราฟฟิคจำนวนมหาศาลทำให้ Akamai มองเห็นการไหลเวียนของข้อมูลในโลกมากกว่าใคร ประกอบกับด้วยบริการคลาวด์ที่ตนมี จึงสนับสนุนให้ Akamai สามารถประมวลข้อมูลนับหมื่นล้านกิจกรรมต่อวันได้อย่างไม่ตกหล่น ซึ่งการนำข้อได้เปรียบเหล่านี้มาใช้อย่างชาญฉลาดทำให้ Akamai สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นภัยต่อแบรนด์ของลูกค้าได้ โดยนำเสนอองค์กรประกอบ 4 ส่วนคือ
1.) Intelligence
อย่างที่กล่าวไป Akamai ถือข้อมูลจำนวนมหาศาลของโลก ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่เพรียบพร้อมทำให้ Akamai สามารถประมวลผลข้อมูลที่ได้มากว่า 600 TB ต่อวันได้อย่างทันท่วงที พร้อมทราบถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ได้ รวมถึงทราฟฟิคของเว็บไซต์ที่ถูกแอบอ้าง
2.) Detection
การมีข้อมูลมหาศาลไม่ได้เป็นความโดดเด่นของ Akamai เท่านั้น แต่การมีความเชี่ยวชาญและอัลกอริทึมเฉพาะต่างหาก ที่ทำให้ Akamai สามารถวิเคราะห์และคัดกรองเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารายนั้นๆ ออกมาได้ ว่ามีการแอบอ้างใดที่มีความเสี่ยงต่อแบรนด์ของลูกค้า ซึ่งมีการประเมินอัปเดตอยู่อย่างสม่ำเสมอให้เท่าทันกับความเสี่ยงใหม่อย่างทันท่วงที
3.) Visibility
จากข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดผู้ใช้งาน Akamai Brand Protector จะได้รับข้อมูลสรุปที่เชื่อมโยงกับตนและเข้าใจได้ง่าย พร้อมกับรายละเอียดเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆ เช่น ระดับความรุนแรง ส่วนที่รับผลกระทบ เส้นทางของการโจมตี พร้อมหลักฐานประกอบว่าโค้ดส่วนไหน ภาพบันทึกหน้าจอ รายละเอียดของการโจมตี และโดเมนที่ถูกแอบอ้าง
4.) Mitigation
เมื่อ Akamai ประมวลผลอย่างแม่นยำแล้วว่าเหตุการณ์นั้นเกี่ยวโยงกับธุรกิจอย่างค่อนข้างแน่นอน จะมีการแจ้งเตือนต่อธุรกิจ รวมถึงยังมีบริการร้องขอเพื่อปิดโดเมนเหล่านั้นได้ด้วย (takedown) ซึ่งโดยปกติต้องมีขั้นตอนมากมายเพื่อยื่นเรื่องกับผู้มีอำนาจให้พิจารณา นอกจากนี้ Akamai ยังมีความสามารถ Zone Protection เสริมให้ความมั่นใจแก่ธุรกิจได้ด้วย โดยบริการนี้จะคอยติดตามโดเมนของแบรนด์ทุกเลเวลที่เสี่ยงต่อการปลอมแปลงด้วยเทคนิคต่างๆ
WIT ผู้เชี่ยวชาญและพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ Akamai
จากข้อมูลข้างต้นแน่นอนว่าผู้อ่านคงจะเข้าใจถึงความสำคัญและโซลูชัน Akamai Brand Protector กันมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ดีการประเมินธุรกิจเพื่อวางแผนการใช้งานเป็นเรื่องของประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ด้วยเหตุนี้ธุรกิจจะอุ่นใจได้มากขึ้นหากมีผู้ให้คำปรึกษาเพื่อนำโซลูชันมาใช้ได้ตรงจุดสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและแผนงบประมาณ ซึ่ง WIT คือคำตอบนั้น
WIT ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Akamai มาตั้งแต่ปี 2015 ที่ทีมงานมีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับโซลูชันของ Akamai เป็นอย่างดี การันตีด้วย Certificate มากมายที่ได้รับ โดย WIT ยังเป็นผู้คร่ำหวอดกับวงการไอทีของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลธุรกิจใหญ่ๆมากมาย อาทิ กลุ่มธนาคารและประกันชีวิต สายการบิน เป็นต้น ทำให้มั่นใจได้เลยว่า WIT คือพาร์ทเนอร์ที่ธุรกิจมองหา