5 อันดับเหตุผลทำไมต้องใช้บริการ MDR
เมื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มปริมาณ ความซับซ้อน และผลกระทบ องค์กรต่างๆ จึงหันมาใช้บริการ Managed Detection and Response (MDR) มากขึ้น เพื่อตรวจจับและต่อต้านการโจมตีขั้นสูงที่โซลูชันเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันได้ ในความเป็นจริง Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 บริษัท 50% จะใช้ MDR สำหรับการตรวจสอบ ตรวจจับ และตอบสนองภัยคุกคาม
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของโซลูชันการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในตลาดอาจทำให้ยากที่จะเข้าใจว่า MDR คืออะไร MDR เหมาะกับระบบนิเวศความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กว้างขึ้นอย่างไร และประโยชน์ของการใช้บริการ MDR มีอะไรบ้าง บทความนี้จะให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกบริการ MDR
คำจำกัดความ MDR
Managed Detection and Response (MDR) เป็นบริการที่มีการจัดการเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญในการตรวจจับและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่โซลูชันหรือเทคโนโลยีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันได้
อย่าสับสนระหว่าง MDR กับ EDR (endpoint detection and response) หรือ XDR (extended detection and response) แม้ว่า MDR, EDR และ XDR จะสนับสนุนในการทำ threat hunting
EDR และ XDR เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถหาและตรวจสอบการแฝงตัวของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งการบริการ MDR จะใช้นักวิเคราะห์ระบบรักษาความปลอดภัยในการตามล่า ตรวจสอบ และกำจัดภัยคุกคามของคุณ
ใครบ้างที่ควรใช้บริการ MDR
บริการ MDR เหมาะกับองค์กรทุกประเภทในทุกภาคส่วน ตั้งแต่บริษัทขนาดเล็กที่มีทรัพยากรด้านไอทีจำกัดไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีกลุ่ม SOC ภายในองค์กร บริการ MDR สามารถทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ โดยปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งมีรูปแบบการตอบสนอง MDR สามแนวทางดังนี้
- ทีม MDR จัดการการตอบสนองต่อภัยคุกคามอย่างสมบูรณ์ในนามของลูกค้า
- ทีม MDR ทำงานร่วมกับทีมงานภายในบริษัท ร่วมกันจัดการการตอบสนองต่อภัยคุกคาม
- ทีม MDR แจ้งเตือนทีมงานภายในองค์กรและให้คำแนะนำในการแก้ไข
ความจำเป็นในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามที่นำโดยมนุษย์
ความจริงก็คือโซลูชันเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ได้ทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยจากโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผู้ประสงค์ร้ายจะใช้เครื่องมือไอทีที่ถูกกฎหมายมากขึ้น ใช้ประโยชน์จากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยและสิทธิ์การเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่ไม่ได้แพตช์ของระบบ โดยใช้เทคนิคการเลียนแบบผู้ใช้งานที่ได้รับอนุญาตและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในการป้องกันขององค์กร ทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับจากเทคโนโลยีการตรวจจับอัตโนมัติ
ภาพด้านล่างให้รายละเอียดเกี่ยวกับ เครื่องมือ ยอดนิยมที่ใช้โดยผู้โจมตีในแต่ละขั้นตอนด้วย MITER ATT&CK โดยเครื่องมือที่ทีมไอทีใช้เป็นประจำ เช่น PowerShell, PsExec และ RDP มักถูกใช้โดย ผู้ประสงค์ร้าย ในขณะที่เทคโนโลยีการตรวจจับอัตโนมัติพยายามที่จะแยกความแตกต่างระหว่างเจ้าหน้าที่ไอทีที่ถูกต้องที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้และผู้โจมตีที่ใช้ประโยชน์จากการใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
ดังนั้นการจะหยุดการโจมตีที่ใช้เทคนิค ‘living-off-the-land’ ขั้นสูงเหล่านี้ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของมนุษย์ ทุกครั้งที่มีผู้โจมตีเข้ามาดำเนินการบางอย่าง มักจะเกิดสัญญาณ ซึ่งจำเป็นต้องความเชี่ยวชาญของมนุษย์ร่วมกับเทคโนโลยีการป้องกันอันทรงพลังและโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงจะทำให้นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับ ตรวจสอบ และต่อต้านแม้กระทั่งการโจมตีที่ซับซ้อนที่นำโดยมนุษย์เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล
การตามล่า สืบสวน และการตอบสนองภัยคุกคามสามารถดำเนินการได้โดยใช้เครื่องมือ EDR ,XDR และบริการ MDR ร่วมกับทีมงานภายในองค์กรของคุณหรือเป็นบริการ outsourced service ทั้งหมด
5 ประโยชน์ที่ได้รับ จากการใช้บริการ MDR
1.ยกระดับการป้องกันทางไซเบอร์ของคุณ
ด้วยบริการ MDR คุณจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่กว้างและลึกของนักวิเคราะห์ของผู้ให้บริการ เพราะทีม MDR จะมีประสบการณ์กับปริมาณและการโจมตีที่หลากหลายมากกว่าองค์กรใด ๆ ทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญในระดับที่แทบจะไม่สามารถสร้างได้ในองค์กรทั่วไป
ทีม MDR ยังตรวจสอบและตอบสนองต่อเหตุการณ์ทุกวัน ทำให้พวกเขามีความคล่องแคล่วมากในการใช้เครื่องมือตามล่าภัยคุกคาม ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นในทุกขั้นตอนของกระบวนการ ตั้งแต่การระบุสัญญาณที่สำคัญไปจนถึงการตรวจสอบเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและการกำจัดกิจกรรมที่เป็นอันตราย
โดยรวบรวม runbooks สำหรับภัยคุกคามแต่ละรายการหรือตัวการเฉพาะที่พบ เมื่อมีการระบุตัวผู้โจมตีในระหว่างการสืบสวนทีมของเราสามารถอ้างอิงถึง runbook แล้วดำเนินการได้ทันที
runbooks ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เช่น:
– TTPs (กลยุทธ์ เทคนิค และขั้นตอน) ทั่วไปหรือเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้โจมตี
– IOCs ที่เกี่ยวข้อง (indicators of compromise)
– หลักฐานและแนวคิดที่เชื่อมโยงกับช่องโหว่
2.เพิ่มขีดความสามารถด้านไอที
การตามล่าภัยคุกคามนั้นใช้เวลานานและคาดเดาไม่ได้ สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่ต้องจัดการงานและลำดับความสำคัญหลายอย่าง อาจเป็นเรื่องยากที่จะจัดการตามให้ทันความท้าทาย
79% ของทีมไอทียังขาดการตรวจสอบบันทึก(log)เพื่อหาสัญญาณหรือกิจกรรมที่น่าสงสัย
เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีต่อองค์กร เมื่อตรวจพบสิ่งที่น่าสงสัย คุณจะต้องละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้สามารถตรวจสอบและดำเนินการกับภัยคุกคามได้ทันที
การใช้บริการ MDR ช่วยให้คุณเพิ่มขีดความสามารถด้านไอทีขององค์กรให้มีเวลาไปสนับสนุนหรือริเริ่มเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการเติบโตธุรกิจองค์กรดียิ่งขึ้น
3.รับความอุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ด้วยตัวการร้ายที่กระจายอยู่ทั่วโลก การโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้ประสงค์ร้ายจะทำงานมากที่สุดในเวลาที่ทีมไอทีของคุณมีโอกาสออนไลน์น้อยที่สุด เช่น ตอนเย็น วันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงวันหยุด ดังนั้น การตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามจึงเป็นงานที่ต้องทำตลอดเวลา ถ้าคุณทำเฉพาะในเวลาทำการ นั่นแปลว่าคุณปล่อยให้องค์กรของคุณมีความเสี่ยง
ด้วยการให้ความคุ้มครองตลอด 24/7 บริการ MDR ให้ความมั่นใจและความอุ่นใจอย่างมาก สำหรับทีมไอที หมายความว่าสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน พวกเขาสามารถผ่อนคลาย และมีเวลาส่วนตัวกลับคืนมา ด้วยความคุ้มครองจากผู้เชี่ยวชาญตลอด 24/7 และความพร้อมทางไซเบอร์ในระดับสูงตลอดเวลาทำให้มั่นใจได้อย่างมีประสิทธิภาพว่าข้อมูลของพวกเขาและองค์กรได้รับการปกป้องอย่างดี
4.เพิ่มความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่จำนวนพนักงาน
การตามล่าภัยคุกคามเป็นการดำเนินการที่ซับซ้อนมาก บุคลากรในกลุ่มนี้จำเป็นต้องมีชุดทักษะเฉพาะ ความเชี่ยวชาญ และคุณลักษณะที่จำเป็นเช่น:
- สร้างสรรค์และอยากรู้อยากเห็น – การมองหาภัยคุกคามที่อาจคล้ายกับการงมเข็มในมหาสมุทร และนักล่าภัยคุกคามมักจะใช้เวลาหลายวันในการมองหาภัยคุกคาม โดยใช้วิธีการมากมายเพื่อค้นหาพวกมัน
- ประสบการณ์ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ – การตามล่าภัยคุกคามเป็นหนึ่งในการดำเนินการที่ทันสมัยที่สุดในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนั้นประสบการณ์ในสาขาและความรู้พื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็น
- ความรู้ด้านภัยคุกคาม – การทำความเข้าใจแนวโน้มภัยคุกคามล่าสุดเป็นสิ่งสำคัญเมื่อค้นหาและกำจัดสิ่งที่ไม่รู้จัก
- Adversarial Mindset – ความสามารถในการคิดแบบแฮ็กเกอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับแนวทางภัยคุกคามที่นำโดยมนุษย์ในปัจจุบัน
- ความสามารถในการเขียนทางเทคนิค – นักล่าภัยคุกคามจะต้องบันทึกสิ่งที่ค้นพบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวน ดังนั้นความสามารถในการสื่อสารข้อมูลที่ซับซ้อนดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการมองหา, การตามล่าจนถึงบทสรุป
- ระบบปฏิบัติการ (OS) และความรู้ด้านเครือข่าย – ความรู้ในการทำงานขั้นสูงของทั้งสองอย่างเป็นสิ่งจำเป็น
- ประสบการณ์การเขียนโค้ด/การเขียนสคริปต์ – สิ่งนี้จำเป็นเพื่อช่วยนักล่าภัยคุกคามสร้างโปรแกรม ทำงานอัตโนมัติ แยกวิเคราะห์บันทึก และดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือและดำเนินการสืบสวน
คุณลักษณะเหล่านี้ แสดงถึงการผสมผสานที่หาได้ยาก ซึ่งการขาดแคลนบุคลากรทวีความรุนแรงขึ้นจากการขาดแคลนทักษะที่โดดเด่นในภาคไอที ซึ่งทำให้การสรรหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตามล่าภัยคุกคามเป็นงานที่ยากเย็นแสนเข็ญ สำหรับหลายองค์กร
บริการ MDR มอบความเชี่ยวชาญให้กับคุณ เรามีนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญหลายร้อยคนที่ให้บริการ MDR อย่างต่อเนื่องแก่ลูกค้าทั่วโลกช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายขีดความสามารถในการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน
5.ปรับปรุง ROI ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของคุณ
การจัดตั้งทีมล่าภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันนั้นมีราคาแพง เพื่อให้ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง คุณต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างน้อยห้าหรือหกคนที่ทำงานกะแยกกัน บริการ MDR จะลดค่าใช้จ่าย เป็นวิธีที่คุ้มค่าในการรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ บริการ MDR ยังช่วยลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายสูง และหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทางการเงินจากการรับมือกับเหตุการณ์สำคัญ ด้วยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการแก้ไขการโจมตีแรนซัมแวร์ในองค์กรขนาดกลางที่ 1.4 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 การลงทุนในการป้องกันจึงเป็นการตัดสินใจทางการเงินที่ชาญฉลาด และได้รับข้อได้เปรียบด้าน TCO มากมาย
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกบริการ MDR
บริการ MDR แตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินการบริการ
1. ระดับการสนับสนุนและการโต้ตอบที่เสนอ
คุณต้องการให้ผู้ให้บริการ MDR จัดการการตอบสนองต่อภัยคุกคามของคุณอย่างสมบูรณ์ จัดการการตอบสนองต่อภัยคุกคามร่วมกับทีมของคุณ หรือแจ้งเตือนทีมของคุณเพื่อให้ดำเนินการได้ ระบุระดับการสนับสนุนและการโต้ตอบที่คุณต้องการ บริการ MDR ของ เราทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของทีมไอทีของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการความสามารถใดก็ตาม ตั้งแต่การสนับสนุนที่มีการจัดการเต็มรูปแบบทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงทีมภายในองค์กร เราจะสนับสนุนคุณทุกที่
2.ประสบการณ์ภัยคุกคามที่กว้างและลึก
ประสบการณ์ที่กว้างขึ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นในการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์นำไปสู่การป้องกันที่ดีขึ้น นอกจากนี้ สำรวจความลึกของความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่อยู่เบื้องหลังทีม MDR ของผู้ขายและคุณภาพของข้อมูลเชิงลึกตามบริบทที่มีให้เพื่อช่วยนักวิเคราะห์จัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบการแจ้งเตือน เบื้องหลัง ทีม MDR มีความเชี่ยวชาญด้านมัลแวร์กว่า 30 ปีและความสามารถด้าน AI ชั้นนำระดับโลก ให้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อช่วยให้ทีมMDR ระบุและต่อต้านการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
3.ความกว้างและความลึกของการตรวจสอบระยะไกล
คำนึงถึงการผสานรวมความปลอดภัยและความสามารถในการรวมสัญญาณจากทั่วทั้งสภาพแวดล้อม IT ของคุณได้กว้างเพียงใด ทีม MDR ของเรามอบการผสานรวมที่กว้างขวาง full IT stack เต็มรูปแบบ รวมถึงทั้งการผสานรวม native และ third party integrations กับ endpoint, network, cloud, email, and Microsoft 365 ช่วยให้นักวิเคราะห์มองเห็นได้กว้างทั่วทั้งสภาพแวดล้อมของลูกค้า ซึ่งจะช่วยยกระดับการตรวจจับ การตรวจสอบ และการตอบสนองภัยคุกคาม
สรุป
เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง MDR จึงกลายเป็นการป้องกันที่ต้องมีสำหรับองค์กรทุกขนาดอย่างรวดเร็ว การทำงานกับผู้ให้บริการ MDR ที่เชื่อถือได้ให้ประโยชน์มากมาย — ไม่ว่าคุณจะต้องการจ้างบุคคลภายนอกเพื่อตามล่าภัยคุกคามหรือเสริมและปรับปรุงบริการภายในองค์กรของคุณ:
- ยกระดับการป้องกันทางไซเบอร์ของคุณ
- เพิ่มขีดความสามารถด้านไอที
- รับความอุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
- เพิ่มความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่จำนวนพนักงาน
- ปรับปรุง ROI ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ของคุณ