ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพมากกว่าอดีตหลายเท่าตัว การรู้และมองเห็นข้อมูลที่มากกว่าอาจเป็นผลดีต่อธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่โครงสร้าง IT ภายในองค์กรนั้นไม่ได้รวมอยู่ที่จุดเดียวและมีการใช้งาน Hybrid Cloud มากขึ้นอย่างแพร่หลาย จึงไม่แปลกอะไรนักที่แนวคิด Observability เริ่มได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
เครื่องมือตรวจสอบความสามารถในการดำเนินการของระบบไอทีและ Observabiltiy นั้นถูกนำไปใช้งานอย่างหลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้เพื่อวิเคราะห์ เพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานและให้บริการของระบบ หรือการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางไซเบอร์ ในบทความนี้ ขอเชิญทุกท่านมาเจาะลึกถึง TrafficPeak บริการ Observability จาก Akamai ว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างอย่างไรจากโซลูชันอื่นๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่า Akamai นั้นเป็นผู้ให้บริการ Content Delivery Network (CDN) รายใหญ่ของโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจมากมาย Akamai จึงทราบดีของความสำคัญในการสอดส่องเฝ้าระวังและตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในเครือข่ายตามแนวคิดของ Observability ดังนั้นพวกเขาจึงจับมือกับ Hydrolix Inc. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลที่รองรับข้อมูลขนาดใหญ่เปิดให้บริการ TrafficPeak powered by Akamai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Observability ที่ทำงานอยู่บน Akamai Connected Cloud
ทว่าในโลกที่มีโซลูชันด้าน Observability อยู่มากมาย TrafficPeak แตกต่างอย่างไร? นอกจากการรองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆของ Akamai โดยสมบูรณ์แบบแล้ว TrafficPeak ถูกออกแบบมาเพื่อต่อกรกับปัญหาที่องค์กรที่มีการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลปริมาณมากต้องเผชิญในการใช้แพลตฟอร์ม Observability ดังนี้
- ข้อมูลมีปริมาณมหาศาลทำให้เรียกดูได้ล่าช้า – แพลตฟอร์ม TrafficPeak สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ความเร็วในการ Query ข้อมูลต่ำกว่าหลักวินาที อีกทั้งยังจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างในรูปแบบของ Hot Storage หมดปัญหาเรื่องความล่าช้า
- ข้อมูลมากเกินไป รับและนำมาจัดเก็บได้ไม่มีประสิทธิภาพ – TrafficPeak มีกลไกบีบอัดข้อมูล 20-50 เท่าเพื่อเร่งความเร็วและลดขนาดในการจัดเก็บ สามารถสเกลอัตโนมัติเพื่อนำเข้า (Ingress) ข้อมูลในหลักหลายเทระไบต์ต่อวัน ไม่ว่าจะเป็น Data Stream, Multi-CDN, CMCD หรืออื่นๆ อีกทั้งยังจัดเก็บข้อมูลบนแพลตฟอร์มย้อนหลังสูงสุด 15 เดือนซึ่งมากกว่าเจ้าอื่นๆ
- ปริมาณข้อมูลส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในระบบสูง – บริการ TrafficPeak ซึ่งเป็น Managed Service เต็มรูปแบบนั้นมีการคิดค่าใช้จ่ายอย่างตรงไปตรงมาที่ 0.25 เหรียญต่อ 1 ล้านรายการข้อมูล และหากมีการใช้บริการมากกว่า 7000 เหรียญขึ้นไปต่อเดือนก็จะเป็นบริการแบบ Dedicated Instance ซึ่งเรียกดูและรับข้อมูลได้ไม่มีข้อจำกัดต่อวัน ทั้งหมดนี้เมื่อรวมกับการบีบอัดข้อมูลในการจัดเก็บ ธุรกิจจะสามารถลดค่าใช้จ่ายของแพลตฟอร์ม Observability ได้สูงถึง 75% เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น
สำหรับองค์กรใดที่ใช้บริการ Akamai อยู่แล้ว TrafficPeak นับเป็นตัวเลือกที่ลงตัวในการเข้ามาดูแลทราฟิกทั้งหมดที่วิ่งเข้าออก เพราะสามารถทำงานร่วมกับข้อมูลประเภทต่างๆบนแพลตฟอร์มได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเชื่อมต่อเข้ากับแหล่งข้อมูลอื่นได้โดยง่ายเพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลร่วมกัน ส่งผลให้ความสามารถในการสังเกตการณ์ภายในองค์กรมีมิติที่ครอบคลุมกว่าเดิม
TrafficPeak เป็นแพลตฟอร์ม Observability ที่ถูกออกแบบมาให้นำไปประยุกต์ใช้งานร่วมกับ Technology Stack ได้อย่างหลากหลาย เริ่มต้นจาก Dashboard สรุปรวมข้อมูลที่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการจาก TrafficPeak เอง (Managed Grafana) หรือตัวอื่นๆตามต้องการ ทางด้านข้อมูลก็เช่นกัน TrafficPeak ใช้งานร่วมกับข้อมูลได้หลายประเภทเพื่อการนำไปใช้ใน Use-case ที่แตกต่าง ได้แก่
- DataStream 2
- SIEM
- CMCD
- Multi-CDN
- DNS
- Sustainability
- mPulse
- Custom Data อื่นๆ
จุดเด่นหนึ่งของ TrafficPeak ดังที่ได้กล่าวไปคือค่าใช้บริการที่ไม่ซับซ้อน โดยมีการให้บริการ 3 รูปแบบด้วยกัน: Shared Instance ที่มีข้อจำกัดในการรับข้อมูลและการ Query และรองรับข้อมูลบน Akamai เท่านั้น, Dedicated Instance สำหรับองค์กรที่ใช้บริการ 7000 เหรียญสหรัฐขึ้นไปต่อเดือนซึ่งจะไม่มีข้อจำกัดและใช้งานกับ Custom Data ได้ และ Bring Your Own Linode ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นมากที่สุด
ข้อมูลในแพลตฟอร์ม TrafficPeak นั้นจะถูกจัดเก็บไว้ 15 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างต่ำไม่ว่าจะเลือกใช้งานในแผนใด และการบีบอัดข้อมูลในการจัดเก็บก็จะช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับองค์กรที่ไม่ต้องการเสียข้อมูลไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย TrafficPeak จึงเข้ามาตอบโจทย์เป็นอย่างดี
เชื่อว่าเมื่อพูดถึงแพลตฟอร์ม Observability หลายท่านคงนึกถึงการตรวจตราเครือข่ายเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับระบบ แต่ Observability แท้จริงแล้วช่วยในการดำเนินธุรกิจได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการสร้างประสบการณ์การใช้งานและการให้บริการที่น่าพึงพอใจกว่าเดิม
อุตสาหกรรมการแพทย์และวิทยาศาสตร์
ส่วนหนึ่งที่สำคัญในการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการแพทย์และวิทยาศาสตร์นั้นคือการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงสุด TrafficPeak สามารถจัดการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับข้อมูลที่เข้าออกได้เป็นอย่างดี ด้วยความรวดเร็วในการสังเกตการณ์ข้อมูลและการเชื่อมต่อกับระบบป้องกันความปลอดภัย รวมไปถึงการยกระดับประสบการณ์การใช้งานด้วยการอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลที่รวดเร็ว องค์กรสามารถนำไปวิเคราะห์ให้บริการแบบ Personalized กับตัวผู้ใช้ ประชาสัมพันธ์ความรู้ให้กับผู้ใช้บริการ หรือแม้แต่การติดตามผลการวิจัยแบบ Real-time เพื่อพัฒนาตัวยาหรือแนวทางการรักษา
นอกจากด้านการให้บริการแล้ว ความสามารถในการมองเห็นข้อมูลในเครือข่ายของ TrafficPeak ยังส่งต่อไปถึงความสามารถในการคุ้มครองระบบไอทีให้เป็นไปตามกฎและข้อบังคับที่เคร่งครัดสำหรับข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อนสูง ข้อมูลสำคัญไม่สูญหายในขณะที่ค่าใช้จ่ายก็ยังสมเหตุสมผลอยู่
อุตสาหกรรมบันเทิง
ในยุคที่บริการสตรีมมิ่งเฟื่องฟู TrafficPeak เข้ามามีบทบาทในการช่วยให้ธุรกิจทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว เช่น ข้อมูลการเข้าถึงภาพยนตร์ใหม่ที่เพิ่งฉายในสตรีมมิ่งและทำการโปรโมท นอกจากนี้ ความสามารถในการสเกลแบบ On-Premise ยังช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถให้บริการข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไปทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับได้เป็นอย่างดีโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
อุตสาหกรรมเกม
มีการนำ TrafficPeak ไปใช้ในการจัดเก็บและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เล่น ประสิทธิภาพของเกม และหาจุดที่ต้องปรับปรุงในการให้บริการแบบ Real-time อีกทั้งยังช่วยในการเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Log ของเกมหรือข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามาในเกมด้วยกลไกการบีบอัดที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋ากว่าที่เคย
Source: https://www.techtalkthai.com/